13 ทริค ฉีดน้ำหอมยังไงให้ปังสุด |
13 ทริค ฉีดน้ำหอมยังไงให้ปัง หอมติดทนนานตลอดทั้งวันน้ำหอมเรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่หนุ่มๆ สาวๆ หลายคน ควรมีไว้ข้างกาย เพื่อช่วยเพิ่มความหอม กลิ่นที่เย้ายวนใจ และเพิ่มความมั่นใจในทุกๆ วัน เชื่อว่าหลายๆคน คงเคยประสบปัญหาเดียวกับแอด ซื้อน้ำหอมแพงๆ แบรนด์เนมมา ทำไมน๊อ ? ฉีดแปบเดียวกลิ่นก็จางซะล้าวว ติดไม่ทนเลย โอ้ยเครียดหงุดหงิดเสียจริงๆ รู้รึยังคะว่าบางที การฉีดน้ำหอมทีเราทำกันอยู่ทุกวัน อาจจะเป็นวิธีที่ผิดก็ได้นะ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แอดมี 13 วิธี ง๊ายง่าย ในการทำให้น้ำหอมให้ติดทนนาน จนหนุ่มๆ เหลียวหลังมาฝากกันค่ะตามแอดมาเลย
1.ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมแต่ละประเภทส่วนใหญ่หลายคนมักมองข้ามคือความเข้มของระดับน้ำหอม ให้เหมาะกับการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ความเข้มของน้ำหอมมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท หากต้องการฉีดน้ำหอมไปงานก็ควรเลือกประเภทที่กลิ่นติดทนนาน เป็นต้น นอกจากนี้ยิ่งน้ำหอมมีความเข้มข้นมากเท่าไหร่ ระยะเวลาในการติดนานก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามมานะคะ 1.Parfum (หรือ Perfume) ระดับความเข้ม 20-30 % เหมาะสำหรับการทำงาน ออกเดท หรือในวันที่ต้องอยู่ข้างนอกนาน ๆ เพราะกลิ่นจะอยู่ได้ถึง 6-8 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมานั่งเติมบ่อย ๆ เพียงแค่ฉีด 2-3 ครั้ง ก็รับประกันได้ว่าอยู่! ติดทนนานทั้งวันแน่นอน 2.Eau De Parfum ระดับความเข้ม 15-20 % สามารถอยู่ได้ถึง 4-5 ชั่วโมงหลังจากการฉีดครั้งแรก เหมาะสำหรับการไปเที่ยวปาร์ตี้ งานแต่งงาน หรือกิจกรรมยามเช้าหรือเที่ยงที่เราสามารถกลับมาเติมกลิ่นได้ 3.Eau De Toilette ระดับความเข้ม 5-15 % เป็นกลิ่นที่มีคนซื้อเยอะมากที่สุด เนื่องจากราคาที่น่าคบหาและผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกเยอะมากมายในท้องตลาด น้ำหอมประเภทนี้สามารถอยู่ได้ 2-3 ชั่วโมง แปลว่าต้องเติมระหว่างวันเพื่อจะให้กลิ่นติดตัว เหมาะสำหรับการออกไปทำกิจกรรมสั้นๆ เช่น อีเวนท์ ดินเนอร์ ดูหนัง หรือประชุม 4.Eau De Cologne ระดับความเข้ม 2-4 % อย่างมากที่สุดอยู่ได้ 2 ประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะเหตุผลนี้ถึงไม่เหมาะกับการฉีดในเวลากลางวัน เพราะคุณแทบไม่มีเวลามานั่งเติมบ่อย ๆ แต่ด้วยความที่ต้องเติมบ่อย ๆ นี่แหละค่ะ กลิ่นที่ไม่แรงมากในระดับนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบให้มีกลิ่นน้ำหอมติดตัวนาน ๆ และชอบการที่น้ำหอมจางตามเวลา 5.Eau Faiche ความเข้มข้นของน้ำหอม 1-3% ความเข้มข้นน้อยที่สุด กลิ่นจะไม่ติดทนนานอยู่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทำให้เราต้องฉีดเพิ่มอยู่บ่อย ๆ ตลอดวัน ไม่เหมาะกับการฉีดออกไปนอกบ้านนาน ๆ แน่นอน แต่เหมาะสำหรับกิจกรรมสั้น ๆ ที่ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงค่ะ
2.ฉีดตามจุดชีพจรต่างๆ บนร่างกายการฉีดหรือแต้มน้ำหอมตรงจุดชีพจรต่างๆ ของร่างกาย เช่น ข้อมือ, ข้อพับแขน, ข้อพับขา หรือบริเวณซอกคอใต้ใบหู ก็เพราะความอุ่นจากการหมุนเวียนของเลือดใต้ผิวหนังเรา อุณหภูมิบวกกับอัตราการเต้นของชีพจร จะเป็นตัวช่วยดูดซับความหอมไว้ใต้ผิวหนัง ทำให้กลิ่นของน้ำหอมฟุ้งกระจายได้ดีมากกว่าการทาบริเวณอื่นๆ ดังนั้นการแต้มน้ำหอมบริเวณจุดชีพจร ข้อพับ จึงเป็นส่วนที่เหมาะสม ช่วยทำให้ความหอมติดทนนานยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ 3.ทาโลชั่นหรือวาสลีนก่อนฉีดน้ำหอมลงบนผิวหากสาวๆ คนไหนที่ต้องการให้น้ำหอมติดทนนานแล้วหล่ะก็ แอดแนะนำให้ทาโลชั่นลงบนผิวกายหรือ ทาเฉพาะจุดต่างๆ บนร่างกาย ก่อนที่เราจะทำการฉีดน้ำหอมนะคะ เพราะความชุ่มชื่นจะช่วยให้น้ำหอมติดทนนานได้ดียิ่งขึ้น มากกว่าผิวแห้งๆ หลายเท่า และควรทาโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นจะดีที่สุด (จะได้ไม่ทำให้กลิ่นของน้ำหอมเพี้ยน นั่นเอง !!) เช่นง่ายๆ ก็คือการใช้วาสลีน วิธีนี้จะทำให้น้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้นนั่นเองจ้า !! ยิ่งใครผิวแห้ง ตัวนี้เวิร์คมากจ้า
4.ใช้น้ำหอมครีมอาบน้ำ และบอดี้โลชั่นกลิ่นเดียวกันการอาบน้ำถือเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว เพียงแค่เราเลือกใช้สบู่หรอครีมอาบน้ำ โลชั่น บำรุงผิว และน้ำหอม ให้เป็นกลิ่นดียวกันทั้งหมด พอมารวมกันแล้วก็จะทำให้ยิ่งทวีความหอมและกลิ่นยังติดทนนานตั้งแต่เช้าจรดเย็นอีกด้วย ใช้เป็นเซ็ทขนาดนี้แล้วไม่หอมทั้งวันให้มันรู้ไปค่ะ
5.การอาบน้ำก่อนการฉีดน้ำหอมอาบน้ำก่อนฉีดน้ำหอม หลังจากอาบน้ำให้ฉีดน้ำหอมก่อนการแต่งตัว เพราะผิวจะชุ่มชื่น และทำให้น้ำหอมซึมสู่ผิว แล้วยังไม่ทำให้เสื้อผ้าเสียหายอีกด้วย ควรเช็ดตัวให้แห้งก่อนทำการฉีดน้ำหอมนะคะ เดี๋ยวไปผสมกับน้ำจะทำให้ให้กลิ่นจางลง และไม่ควรวางน้ำหอมตั้งไว้ในห้องน้ำน๊า (ควรเก็บไว้ที่อุณภูมิห้องหรือในตู้เย็นค่ะ)
6.ห้ามถูผิวหลังฉีดน้ำหอมเสร็จแปลกแต่จริงนะเออ !! การถูน้ำหอมหลังจากฉีดแล้วจะทำให้กลิ่นเบาบางลง ทำลายความหอมไปหมดนั่นเอง อย่างไรด็ดีลองฉีดน้ำหอมในอากาศเข้าทางด้านหน้าตัวเอง ห่างประมาณ 6 นิ้ว อย่าลืมหลับตาก่อนะคะ กลิ่นน้ำหอมจะติดทนนานไปกับคุณทั้งวันเลยทีเดียวเชียวหล่ะ
7.วิธีการใช้น้ำหอมใส่ผม (Fragrant hair spray)วิธีการใช้น้ำหอมใส่ผม หลายคนคงแปลกใจใส่ได้หรอ แต่ก็อีกหลายคนที่ใช้วิธีนี้ในการใช้น้ำหอมค่ะ วิธีการง่ายๆ ตามคำแนะนำการใช้ คือฉีดบนเส้นผม ให้ห่างประมาณ 6 นิ้ว นะค่ะ และจะติดหอมนานทั้งวัน หรือจะใช้ Fragrance hair spray สำหรับเส้นผสมโดยตรงเลยก็ได้จ้า
8.ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงก่อนค่อยหวีสะบัดผมให้พริ้วไหวแค่ไหนก็ไม่มีหวั่นจ้า ถ้าหากอยากให้เส้นผมหอมนานๆ เพิ่มความมั่นใจได้ทุกสถานการณ์ ทริคง่ายๆ ให้คุณฉีดน้ำหอมลงบนแปรงก่อนแล้วค่อยหวีให้ทั่ว นอกจากจะช่วยให้น้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้ไปสัมผัสกับแอลกอฮอล์จากน้ำหอมโดยตรงอีกด้วยค่ะ
9.การเติมน้ำหอมในระหว่างวันสำหรับการเติมน้ำหอมระหว่างวัน ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหอมแต่ละชนิดด้วยนะจ๊ะ เช่นน้ำหอมที่มีพื้นฐานของกลิ่นพรรณไม้ตะวันออก Oriental & Woody มักจะติดทนานกว่ากลิ่นหอมจากดอกไม้หรือผลไม้ Floral – Fruity หรือน้ำหอมประเภท Eau de Perfume จะมีกลิ่นน้ำหอมที่เข้มข้นกว่า Eau de Toilette หรือ Cologne ก็จะกลิ่นติดทนนานกว่านั้นเองค่ะ
10.ฉีดน้ำหอมลงบนกระดาษบางๆ แล้วเอามารองในตู้เสื้อผ้าน้ำหอมบางชนิดอาจทิ้งคราบเป็นรอยด่างติดบนเสื้อผ้าของคุณได้ อาจฉีดน้ำหอมลงบนกระดาษบางๆ แล้วเอามารองเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า เพียงเท่านี้น้ำหอมก็จะติดเสื้อผ้าแล้วหล่ะจ้า !!!
11. ตอนรีดผ้าเอาน้ำหอมมาพรมลงบนเสื้อผ้าหากใครรีดผ้าเอง ควรเอาน้ำหอมมาพรมลงบนเสื้อผ้าของคุณบ้าง แล้วรีดทับลงไป แค่นี้กลิ่นของน้ำหอมจะติดลึกอยู่ในใยผ้า ไม่จางหายไปง่ายๆ ค่ะ แต่ต้องดูด้วยว่าผ้าที่ใส่นั้นเป็นแบบไหน หากพรมลงไปเนื้อผ้าจะเสียหายหรือไม่ ตลอดจนน้ำหอมก็ควรเลือกชนิดที่ไม่เป็นคราบค่ะ
12.ไม่ควรเก็บน้ำหอมไว้ในห้องน้ำถึงแม้ว่าห้องน้ำเป็นสถานที่ ที่ไม่สัมผัสกับแสงแดด แต่อย่างที่ทราบกันน้ำหอมมีสารสกัดจากน้ำมันหอมละเหย และห้องน้ำเป็นที่ที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งความชื้นสูงที่อาจก่อให้เกิดเชื้อโรคหรือแบททีเรียที่ก่อตัวขึ้น ทำให้น้ำหอมเสื่อมคุณภาพเร็วค่ะ
13.เก็บน้ำหอมไว้ในตู้เย็นหลายคนอาจจะกลัวน้ำหอมที่เสื่อสภาพ ด้วยสภาพอากาศภายนอกที่ร้อนเกินไป จึงเลือกที่จะแช่ขวดน้ำหอมไว้ในตู้เย็น ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ผิดอะไร แต่หากแช่ไว้ ควรควบคุมตู้เย็น ไม่ให้ต่ำกว่า 10 องศา จะกำลังพอเหมาะ และควรเช็คด้วยว่าในตู้เย็น ไม่มีกลิ่นแปลกปลอมหรือกลิ่นเหม็น ที่จะส่งผลให้น้ำหอม ของเรากลิ่นเพี้ยนไปด้วยหล่ะ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||